เหล็กและแมงกานีส (Fe & Mn)
สาเหตุ ธาตุอาหารไม่เพียงพอ หรือ ความไม่สมดุลของธาตุอาหาร
ความสำคัญ
เหล็กและแมงกานีสละลายได้ดีในดินที่เป็นกรดจัด โดยทั่วไปดินที่เป็นกรดมักไม่ขาดเหล็กและเเมงกานีสแต่ในดินที่มีฟอสฟอรัสสูง พืชอาจขาดเหล็กทรือแมงกานีสได้เช่นกันซึ่งพบได้บ่อยในสวนทุเรียนเละมังคุดในภาคตะวันออก เพราะเหล็กและแมงกานีสจะทาปฏิกิริยากับฟอสฟอรัส ทาให้ตกตะกอนและไม่เป็นประโยชน์
ลักษณะอาการ
อาการขาดเหล็กและแมงกานีสมีลักษณะคล้ายกัน คือ ใบอ่อนมีพื้นที่ระหว่างเส้นใบสีเหลือง แต่เส้นใบยังเขียวอยู่ โดยทั่วไปอาการขาดธาตุเหล็ก ใบจะมีสีซีดกว่าอาการขาดธาตุแมงกานีส แต่ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพออาจแยกไม่ออก หรือวิเคราะห์อาการผิดพลาด ถ้าพืชขาดเหล็ก แต่ไปใส่ปุ๋ยหรือฉีดพ่นแมงกานีสจะเป็นการซ้าเติมอาการให้หนักยิ่งขึ้น เนื่องจากเหล็กและแมงกานีสเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน คือถ้ามีแมงกานีสมาก พืชจะดูดเหล็กได้น้อยและในทางกลับกัน ถ้ามีเหล็กมาก พืชจะดูดแมงกานีพได้น้อย ในสะละที่ปลูกในเเถบจังหวัดจันทบุรี ที่พบอาการเป็นพิษของแมงกานีสที่ใบแก่ มักจะแสดงอาการขาดเหล็กที่ใบอ่อน การวิเคราะห์พืชจะทาให้ทราบว่าพืชได้รับเหล็กและแมงกานีสเพียงพอหรือไม่ ถ้าค่าวิเคราะห์ต่าแสดงว่าพืชขาด แต่ค่าวิเคราะห์ที่พึ่งไม่ได้แสดงว่าเพียงพอ เพราะอาจเกิดจากการปนเปื้อน สาหรับค่าวิเคราะห์ดินไม่สามารถบอกได้ว่าพืชจะได้รับธาตุทั้ง 2 เพียงพอหรือไม่
วิธีการแก้ไข
ดินที่เป็นด่างมีโอกาสที่จะขาดเหล็กและแมงกานีสมาก เพราะธาตุทั้ง 2 ละลายได้ไม่ดีการขาดเหล็กและ
แมงกานีสที่เกิดจากการที่มีฟอสฟอรัสสูง ต้องลดการใช้ปุ๋ยฟอสฟอรัสลง แต่การขาดเหล็กในดินด่าง ต้องทาใหัดิ
นเป็นกรดเพ็่มขึ้นโดยการใส่กามะถันผง หรือ ใส่ปุ๋ยที่มีผลตกค้างเป็นกรด เช่น แอมโมเนียมซัลเฟต

ติดต่อ Tel./Line : 0621692-564 เอ๊..ะ! ไพโรจน์