น้ำตาลทางด่วนกับอะมิโนแตกต่างกันอย่างไร? ใช้ต่างกันอย่างไร?
จากที่ได้ ลงเรื่องน้ำตาลทางด่วนกับกรดอะมิโนไปแล้วคงมีหลายคนสงสัยว่าแล้วมันต่างกันยังไง ถ้าจะให้เห็นภาพก็ต้องเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ
น้ำตาลทางด่วน = กระทิงแดง
อะมิโน = เวย์ โปรตีน
น้ำตาลทางด่วน
จะเห็นว่าเรากินกระทิงแดงเวลาที่ร่างกายอ่อนเพลีย ง่วงนอน เพราะกินกระทิงแดงเป็นการให้พลังงานโดยตรงแก่ร่างกายทำให้ร่างกายกระปรี้กระเป่าขึ้น พืชก็เช่นกันครับ ณ.เวลาที่ต้นโทรม หรือ สภาพอากาศไม่ปกติ พืชจะมีความเครียดสูง การให้น้ำตาลทางด่วนเข้าไปก็เหมือนเป็นการทำให้พืชกระปรี้กระเป่าขึ้น ทนทานต่อสภาวอากาศ
อะมิโน
แต่ในทางกลับกันคนเรากินเวย์โปรตีนไปเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ อะมิโนก็เช่นกัน เราพ่นอะมิโนเข้าไปเพื่อให้พืชนำไปใช้ในการสร้างเซลล์ ขยายเซลล์ใหม่ เพื่อการเจริญเติบโต ของส่วนต่างๆ
เพราะฉะนั้นการใช้งานจึงต่างกัน
#น้ำตาลทางด่วน เหมาะจะใช้ในกรณีวิกฤติ หรือพืชต้นที่โทรม รวมถึงช่วงที่ต้องการสร้างความหวาน เช่น พืชมีอาการถ่ายใบ พืชสลัดดอกจากอากาศเปลียนแปลง เป็นต้น
#อะมิโน เหมาะจะใช้ในช่วง สะสมอาหาร ติดผลอ่อน ขึ้นลูก ผลร่วง,ดอกร่วงเนื่องจากอาหารไม่พอเลี้ยง เป็นต้น
**แต่ตอนนี้ก็มีหลายบริษัท ผสม 2 ตัวนี้รวมกันเลย ก็อยู่ที่เพื่อนๆเกษตรกร จะเลือกใช้งานครับ**
ที่แนะนำ ก็คือ "แอ็ดวาน" สาร อะมิโนพลัส(Amino Plus) บวกน้ำตาลทางด่วน ให้พลังงานพืช ป้องกันเม็ดข้าวร่วง เพิ่มความหวานและขนาด
"แอ็ดวาน" มีฤทธิ์เป็นกลาง สามารถกระจายตัวและดูดซึมเข้าไปสู่เซลล์พืชได้รวดเร็ว คงทนต่อการสลายตัว เป็นสารที่สกัดจากธรรมชาติไม่เป็นภัยและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ประโยชน์ แอ็ดวาน เป็นสารเร่งการเจริญเติบโตที่ให้ผลชัดเจนที่สุด ที่ประกอบด้วยสารสำคัญคือ Nitro-complex ที่สกัดจากพืชธรรมชาติ มีค่า pH เป็นกลาง ปลอดภัยกับผู้ใช้ ไม่เป็นพิษภัยต่อคนและสัตว์ รวมถึงสิ่งแวดล้อม
อัตราการใช้ ในระยะต่างๆของไม้ผล เป็นดังนี้
1. ระยะทั่วไป ระยะก่อนออกดอก ให้ใช้อัตราการใช้ 10-30 cc / น้ำ 20 ลิตร ให้ฉีดพ่นให้ทั่วต้น สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ช่วยบำรุงต้นและราก ช่วยให้แตกใบอ่อนอย่างสม่ำเสมอ
3. ระยะติดผลแล้ว ให้ใช้ในอัตรา 30 cc / น้ำ 20 ลิตร ทำให้ขั้วเหนียว ผลไม่ร่วง ช่วยขยายขนาดของผลก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิต
4. ระยะหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ใช้ในอัตรา 20-30 cc / น้ำ 20 ลิตร ช่วยฟื้นฟูต้นไม้ให้มีความแข็งแรงสำหรับการออกผลผลิตในรอบถัดไป