สำเหตุ เชื้อรา Cortricium salmonicolor
ความสำคัญ
โรคราสีชมพูมีความสาคัญและทาความเสียหายในแหล่งปลูกทุเรียนที่มีความชื้นสูง ขาดการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง จึงทาให้เชื้อเจริญลุกลาม และก่อความเสียหายให้กับต้นทุเรียน นอกจากต้นทุเรียนแล้วเชื้อราคอร์ทีเชียมสามารถเข้าทาลายพืชได้หลายชนิด เช่น มะม่วง กาแฟ ลองกอง ส้มเขียวหวาน ส้มจุก เป็นต้น
ลักษณะอาการ
ต้นทุเรียนที่เป็นโรคจะมีอาการใบเหลืองและร่วงเป็นหย่อมๆ คล้ายกับอาการกิ่งแห้ง หรือโคนเน่าที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora พบเส้นใยของเชื้อราลักษณะสีขาวเจริญคลุมกิ่งหรือลาต้น ต่อมาเจริญลุกลามเมื่อเชื้อมีอายุมากขึ้น เส้นใยเปลี่ยนเป็นสีครีมถึงชมพูอ่อน เมื่อถากกิ่งที่เชื้อราขึ้นปกคลุมจะพบเนื้อไม้แห้งเป็นสีน้าตาล
การแพร่ระบำด
โรคราสีชมพูพบระบาดในฤดูฝน ซึ่งสภาพอากาศมีความชื้นสูง มักพบเกิดขึ้นกับต้นทุเรียนที่ขาดการดูแล
รักษาที่ดี ไม่มีการตัดแต่งกิ่งที่เหมาะสม ไม่มีการป้องกันกาจัดโรคและแมลงศัตรูพืชในแปลงปลูก โดยเชื้อราจะเข้าทาลายบริเวณกิ่งที่อยู่ในทรงพุ่ม หรือกิ่งที่ซ้อนกันหนาแน่นทาให้เกิดการสะสมความชื้น ทาให้เชื้อราเข้าทาลายพืชได้ง่ายขึ้นและก่อให้เกิดอาการกิ่งแห้งและใบเหลืองร่วง
การป้องกันกำจัด
1. ตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง และกาจัดวัชพืชในแปลงปลูก เพื่อลเป็นการลดความชื้นสะสม
2. ในฤดูฝนหมั่นสารวจแปลงปลูกอย่างสม่าเสมอ หากพบอาการของโรคที่กิ่งให้ตัดและนาไปทาลายนอกแปลงหรือเฉือนเปลือกบริเวณที่เป็นโรคออก และใช้สารป้องกันกาจัดโรคพืช คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ (copperoxychloride) 85% WP ผสมน้าข้นๆ ทาบริเวณแผลที่ตัด
3. เมื่อพบอาการใบเหลือง ควรตรวจดูบริเวณกิ่ง หากพบอาการของโรค ให้ตัดกิ่งที่เป็นโรค นาไปทาลายนอกแปลง หรือพบอาการของโรคบริเวณง่ามกิ่ง หรือโคนกิ่งที่มีขนาดใหญ่ ให้ถากแผลบริเวณที่เป็นโรคออกแล้วทาด้วยสารตาม ข้อ 2 จากนั้นพ่นให้ทั่วต้น โดยเฉพาะที่บริเวณกิ่ง และลาต้นด้วยสารสารคอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ไรด์ (copper oxychloride) 85% WP อัตรา 30-50 กรัมต่อน้า 20 ลิตรหรือ คอปเปอร์ออกซีคลอไรด์ไรด์ (copper oxychloride) 62% WP อัตรา 50 กรัมต่อน้า 20 ลิตร หรือคาร์เบนดาซิม (carbendazim)50% WP อัตรา 10 กรัมต่อน้า 20 ลิตร
4. ในแปลงปลูกทุเรียนที่เคยพบโรคระบาดรุนแรง ในช่วงฤดูฝนควรป้องกันการเกิดโรคโดยพ่นด้วยสารดังกล่าวตามกิ่งก้านที่อยู่ในทรงพุ่มเสมอ
