แมกนีเซียม (Mg)
สาเหตุ ธาตุอาหารไม่เพียงพอ หรือ ความไม่สมดุลของธาตุอาหาร
ความสำคัญ
อาการขาดแมกนีเซียมในไม้ผลและพืชสวนพบเห็นไดัทั่วไป และสังเกตได้ง่ายไม้ผลที่ปลูกกันแพร่หลาย เช่นส้ม ทุเรียน มังคด เงาะ สละ กล้วย เป็นต้น ทีปลูกในบริเวณภาคตะวันออกของไทย จะพบอาการขาดแมกนีเซียมเสมออาการขาดเเมกนีเซียมจะเกิดที่ใบแก่ก่อนเนื่องจากแมกนีเซียมเป็นธาตุที่เคลื่อนที่ได้ในพืช เมื่อพืชได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ จะเคลื่อนย้ายแมกนีเซียมที่สะสมอยู่ที่ใบแก่ไปยังใบอ่อน ลักษณะการขาดแมกนีเซียมเป็นดังนี้ ขอบใบและ
พื้นที่ระหว่างเส้นใบมีสีเหลืองเห็นได้ชัด แต่เส้นใบยังเขียวอยู่ อาจมีสีแดงเกิดตามแถบสีเหลืองบนใบด้วย ในพืชตระกูลส้ม บริเวณโคนใบจะยังมีสีเขียว ลักษณะเหมือนอักษรตัว v (v shape)
การตรวจสอบว่าพืชได้รับแมกนีเซียมเพียงพอหรือไม่ ทาได้โดยการวิเคราะห์ใบ ซึ่งจะได้ข้อมูลที่ค่อนข้างแม่นยาและชี้บ่งได้ชัดเจน ส่วนการวิเคราะห์ดินนั้นไม่สามารถชี้บ่งว่าพืชจะขาดแมกนีเซียมหรือไม่ เนื่องจากปริมาณแมกนีเซียมที่พืชดูดไปใช้ขึ้นกับธาตุแคลเซียม และโพแทสเซียมดังที่กล่าวมาแล้ว แต่การวิเคราะห์ดินจะทาให้ทราบว่าการที่พืชขาดแมกนีเซียมนั้น เกิดจากการที่ดินมีแมกนีเซียมน้อย หรือเกิดจากความไม่สมดุลของธาตุอาหาร เมื่อพืชขาดแมกนีเซียมรุนแรง ใบแก่จะร่วงก่อนกาหนด นอกจากนั้น ยังพบว่ารากที่หาอาหาร (feeder root) ตายด้วย ทาให้มีรากที่ใช้ดูดธาตุอาหารลดลง
ลักษณะอาการ
พืชจะแสดงอาการที่ใบแก่ก่อน เนื่องจากแมกนีเซียมเป็นธาตุที่เคลื่อนที่ได้ในพืช เมื่อพืชได้รับแมกนีเซียมไม่เพียงพอ จะเคลื่อนย้ายแมกนีเซียมที่สะสมอยู่ที่ใบแก่ไปยังใบอ่อน โดยพืชมีลักษณะขอบใบและพื้นที่ระหว่างเส้นใบมีสีเหลืองเห็นได้ชัด แต่เส้นใบยังเขียวอยู่
วิธีการแก้ไข
ทุเรียนพันธุ์ชะนีจะพบอาการขาดแมกนีเซียมมากว่าพันธุ์หมอนทอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการเก็บเกี่ยวจะพบอาการขาดแมกนีเซียมมาก เนื่องจากมีการเคลื่อนย้ายแมกนีเซียมออกจากใบแก่ เมื่อพืชขาดแมกนีเซียมสามารถแก้ไขได้โดยการให้แมกนีเซียมซัลเฟตทางดิน และฉีดพ่นแมกนีเซียมซัลเฟตทางใบช่วย ในดินที่เป็นกรดและขาดแมกนีเซียม ควรใส่ปุ๋ยในรูปโดโลไมท์ อย่างไรก็ตาม ปูนโดโลไมท์ละลายช้า และอาจดัองใช้เวลานานมากกว่าจะเคลื่อนที่ลงไปยังดินล่าง ควรแก้ปัญหาโดยการใส่แมกนีเซียมซัลเฟตร่วมกับการใส่ปูนโดโลไมท์
ติดต่อ Tel/Line: 062-1692-564 เอ๊..ะ!ไพโรจน์

