Metarhizium anisopliae เป็นสารควบคุมทางชีวภาพที่ได้รับการวิจัยมาอย่างดีซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายในการเกษตร ต่อไปนี้คือประเด็นสําคัญบางประการเกี่ยวกับประโยชน์และผลการวิจัย:
สารควบคุมทางชีวภาพ:
ศัตรูพืชเป้าหมาย:
กลไกการออกฤทธิ์:
ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม:
สุขภาพดิน:
การจัดการความต้านทาน:
ประสิทธิภาพในเงื่อนไขต่างๆ:
ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ:
การรวม Metarhizium anisopliae เข้ากับการปฏิบัติทางการเกษตรไม่เพียงแต่ช่วยในการจัดการศัตรูพืช แต่ยังส่งเสริมการทําฟาร์มอย่างยั่งยืนอีกด้วย การวิจัยยังคงสํารวจการใช้งานและประโยชน์อย่างต่อเนื่องทําให้เป็นเครื่องมือที่มีแนวโน้มสําหรับการเกษตรสมัยใหม่



เชื้อราเมธาไรเซียม หรือเชื้อราเขียว เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กพบในดินทั่วไป เป็นเชื้อราที่ทำให้เกิดโรคกับแมลงศัตรูพืช เจริญเติบได้ดีในช่วงอุณหภูมิ 27-30 องศาเซลเซียส และสร้างสปอร์ได้ใน 5-7 วัน เส้นใยเริ่มต้นมีสีขาว สร้างสปอร์รูปร่างรี สีเขียวขี้ม้า เชื้อราเมธาไรเซียมสามารถทําลายแมลงศัตรูพืชได้หลายชนิด ทําลายได้ทั้งตัวอ่อน ดักแด้ และตัวเต็มวัย เช่น ด้วงแรดมะพร้าว ด้วงหมัดผัก หนอนศัตรูพืช หนอนเจาะลําต้น หนอกกอ ปลวก หนอนทราย บั่ว ไร และเพลี้ยต่างๆ เช่นเพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน เพลี้ยหอย เป็นต้น
การควบคุมและทำลาย
เชื้อราเมธาไรเซียม สามารถควบคุมและทำลายแมลงได้โดย เมื่อสปอร์เชื้อราเมธาไรเซียม ตกบนตัวแมลง เข้าสู่แมลงทางผิวหนัง หรือช่องว่างของลำตัวรวมทั้งจะสร้างเอนไซม์ไคติเนส (Chitinase) เพื่อช่วยย่อยผนังบางส่วนและงอกสปอร์แทงผ่านลำตัวเข้าไปเจริญ เพิ่มปริมาณทำให้แมลงเกิดโรค และตายในที่สุด แมลงที่ตายด้วยเชื้อราเมธาไรเซียม จะมีลักษณะลำตัวแข็งมีเชื้อราขึ้นปกคลุมลำตัวภายนอกเป็นสีเขียว ซึ่งระยะเวลาในการเข้าทำลายจะเร็วหรือช้า ขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ได้แก่อุณหภูมิและ ความชื้น อุณหภูมิที่เหมาะสมจะอยู่ในช่วง 25-30 องศาเซลเซียส และความชื้นมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแสงแดด จะมีรังสียูวีที่มีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา นอกจากนี้ความรุนแรงของเชื้อ จะรุนแรงมากหรือน้อย ยังขึ้นกับลักษณะพันธุกรรมของเชื้อ ความแข็งแรง หรือภูมิต้านทานของแมลงอีกด้วย
วิธีการใช้เชื้อราเมธาไรเซียมกําจัดด้วงแรดมะพร้าว


วิธีการใช้เชื้อราเมธาไรเซียมกำจัดด้วงหนวดยาวอ้อย

การฉีดพ่นชีวภัณฑ์เมตาไลต์เพียงครั้งเดียวอาจได้ประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ต้องพ่นซ้ำ 2-3 ครั้งขึ้นไป และควรพ่นในช่วงที่แมลงยังตัวเล็กๆ หรืออยู่ในช่วงพักตัวอยู่ใต้ดินหรือวัสดุปลูก การพ่นต้องให้ถูกตัวแมลง เนื่องจากเชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิต การออกฤทธิ์ของเชื้อราจะไม่เหมือนสารเคมีที่สามารถดูดซึมผ่านไปยังเนื้อเยื่อได้ เมื่อแมลงมาดูดกินก็จะได้รับสารเคมีทำให้แมลงตาย แต่ในกรณีการพ่นเชื้อราก่อโรคในแมลงจะต้องให้สปอร์ไปตกหรือถูกตัวแมลงเท่านั้นจึงจะทำลายแมลงได้ อย่างไรก็ตามต้องคำนึงถึงช่วงเวลา แสง อุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสมเป็นสำคัญ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่นเชื้อราเมธาไรเซียมควรเป็นเวลาใกล้ค่ำ เนื่องจากเป็นช่วงที่แมลงเริ่มออกหากินและตัวเชื้อราจะมีชีวิตรอดได้นานขึ้น
ปุ๋ยและฮอร์โมนพืช