อินทรีย์12-3-6(25กก.):สูตรเพิ่มน้ำยาง บำรุงต้นแข็งเเรง ใบเขียวหนา รากแข็งเเรงดูดซึมธาตุอาหารเพิ่มขึ้น สังเคราะห์เเสงสะสมอาหารเร็ว ส่วนประกอบสำคัญ OM.10-15%, เเร่ธาตุอาหาร N12%-P3%-K6%, มูลค้างคาว อะมิโน-ฮิวมิก และไตรโครเดอมาร์ ควบคุมโรครากเน่าโคนเน่า

อินทรีย์12-3-6: ใช้เป็นปุ๋ยเร่งบำรุงต้น ในระยะการเจริญเติบโต ต้นแข็งแรง ไม่หักล้มง่าย ไม่โทรมหลังการให้ผลผลิต ช่วยเสริมสร้างผนังเซลให้แข็งแรงทนทานต่อโรค แมลงได้เป็นอย่างดี  ข้อดีเด่นของอินทรีย์12-3-6 อีกอย่างคือ จะปรับสภาพดินในไร่-สวนหรือ แปลงผลิต แปลงนาข้าว ให้มีความอุดมสมบูรณ์ อยู่เสมอ ช่วยในเรื่องการแตกรากแตกกอได้ดีในนาข้าว 


อินทรีย์12-3-6 เป็นปุ๋ยอินทรีย์เคมี ที่มีส่วนประกอบได้แก่

• ธาตุอาหารหลัก[N-P-K] : ไนโตเจน(N) 12%, ฟอสฟอรัส(P2O5) 3% เเละโพแตสเซี่ยม(K2O) 6% 
  • ไนโตรเจน[N]: N เป็นองค์ประกอบของ อะมิโน โปรตีน นิวคลีโอไทด์ และคลอโรฟิลล์ สารประกอบเหล่านี้ มีความสำคัญมากต่อกระบวนการเมตาโบลิซึมของพืช พืชที่ได้รับไนโตรเจนเพียงพอจะมีการเจริญเติบโตดี    มีความแข็งแรง ใบมีสีเขียวเข้ม (พืชมี N เป็นองค์ประกอบประมาณ 0.5-5%)
          - อากาขาดN ที่พบในไม้ผล คือ ใบจะมีสีซีดกว่าปกติ ใบแก่มีสีเหลือง ร่วงก่อนกำหนด การแตกใบอ่อนไม่ดี ติดผลน้อย ผลมีขนาดเล็ก ผลผลิตโดยรวมลดลง 

                         - อาการพืชได้รับNมากเกินไป จะทำให้พืชมีการเจริญเติบโตทางใบมาก การออกดอกยากและช้า ผลแก่ช้า คุณภาพผลผลิตหลังการเก็บเกี่ยวไม่ดี เช่น มะม่วงจะมีเนื้อนิ่ม พืชไม่ต้านทานต่อโรคและแมลง 

• • ฟอสฟอรัส[P]: ความสำคัญของฟอสฟอรัสต่อการเจริญเติบโตของพืชคือ ช่วยทำให้การแบ่งเซลล์และการพัฒนาการของส่วนประกอบที่เจริญเติบโตของพืช (ยอดและราก)เป็นไปได้ดี ฟอสฟอรัสช่วยให้พืชออกดอกและแก่เร็ว ทำให้พืชมีความแข็งแรง ต้านทานต่อโรคและแมลง

และเหล็กไม่เป็นประโยชน์ต่อพืช ทำให้พืชขาดธาตุอาหารทั้งสองชนิดนี้ได้

• • โพเเตสเซี่ยม[K]: โปแตสเซียมมีอยู่ในพืชประมาณ 1.25-3% โปแตสเซียมเป็นธาตุที่จำเป็นมากสำหรับ  ไม้ผลเขตร้อน เช่น กล้วย น้อยหน่า ทุเรียน หน้าที่ของโปแตสเซียมจำเป็นต่อการสังเคราะห์ โปรตีน และคาร์โบไฮเดรท การทำงานของคลอโรฟิลล์และเอ็นไซม์หลายชนิด นอกจากนั้น ยังเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายแป้งและน้ำตาลในพืชและควบคุมการปิดเปิดของปากใบ

               อาการขาดK: พบบ่อยมากในไม้ผล อาการขั้นแรกคือ พืชจะชะงักการเจริญเติบโต อาการ

• อินทรีย์วัตถุ(O.M): 10-15% ซึงเป็นเเหล่งของสารอาหารอินทรีย์(C,O,H)พืชนำไปใช้สังเคราะห์แป้งและน้ำตาล ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักของพืช และเป็นที่อาหารเสริมและที่อยู่ของจุลินทรีย์ นอกเหนือจากนั้น ในอินทรีย์วัตถุยังมี่แหล่งธาตุอาหารรอง-เสริม CaO, MgO, S และ จุลธาตุธาตุ Fe, Zn, Mn, Cu, Bo, Mo, B, Cl ครบทุกตัว

• มีจุลินทรีย์: ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ไตรโครเดอร์มา ช่วยควมคุมโรคพืชต่าง เช่นโรครากเน่าโคนเน่า 

เหมาะสำหรับ:

• ทุเรียน: หว่านรอบทรงพุ่มในระยะ ทำใบแก่ ใบใหญ่เขียวเข้มเพื่อผลิตอาหารส่งไปสะสมใต้กิ่ง ใช้อัตรา 1-2 กก.ต่อต้น 2-3ครั้งในช่วงทำใบแก่ พืชจะได้รับธาตุอาหารหลักN-P-Kในอัตราที่เหมาะสมต่อการเร่งใบโต แก่ เขียวพร้อมสร้างอาหารส่งไปสะสมให้กิ่งก่อนระยะออกดอก ขณะเดียวกันดินในสวนจะได้รับอินทรียวัตถุO.M.ทำให้ดินดีแก้ดินเสีย เติมไตรโครเดอมาร์ในดินใต้ทรงพุ่มรอบโคนต้นทุเรียน ปกป้องเชื้อราไฟท็อปทอรามาทำให้เกิดโคนเน่า รากเน่าแก่ทุเรียนได้ ปกป้องรักษาโรครากเน่าโคนเน่าได้ผลดีมาก
• ผลไม้อืนๆ ลำใย เงาะ องุ่น  
• ยางพารา : ใบเขียวหนา ผลิตน้ำยางได้เยอะ
• ปาล์ม:  ให้ผลผลิตสูง
• พืชผัก: โตเร็วใบเขียวหนา น้ำหนักดี 

 

อัตราเเละวิธีใช้: 

-ในทุเรียนและไม้ผลต่างๆ ใส่อัตรา  2-3 กก./ต้น ใส่ 3-4เดือนครั้งๆละ 2-2.5 กก./ต้น

-พืชไร่-นาข้าว : ใส่รองพื้น 25-30 กก./ไร่ ระยะต้นกล้า 1-1.5เดือน ใส่อีกครั้งในระยะตั้งท้องในอัตรา 25-30 กก./ไร่